การทาสีภายในและภายนอกมีความแตกต่างกันหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการเลือกสี เทคนิคการทา และการเตรียมพื้นผิว เนื่องจากสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่กระทบต่อผนังมีความแตกต่างกันอย่างมาก ดังนั้น การทาสีทั้งสองแบบนี้จึงต้องใช้วิธีการและวัสดุที่แตกต่างกัน มาดูรายละเอียดกันว่ามีความแตกต่างอย่างไรบ้าง
สีภายใน: สีที่ใช้ทาภายในบ้านมักถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความทนทานต่อการทำความสะอาด และเน้นความปลอดภัย เนื่องจากต้องอยู่ในพื้นที่ที่คนอยู่อาศัยบ่อย ๆ สีภายในส่วนใหญ่จะมีสารระเหยต่ำ (Low VOC) เพื่อไม่ให้มีกลิ่นฉุนหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังมักมีความทนทานต่อการเช็ดล้างและทำความสะอาดง่าย
สีภายนอก: สีที่ใช้ทาภายนอกถูกออกแบบมาเพื่อทนทานต่อสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น แสงแดด ฝน ลม ความชื้น และฝุ่นละออง สีภายนอกจึงต้องมีความทนทานสูง ไม่ซีดจางง่าย และมีคุณสมบัติกันน้ำ กันเชื้อรา และตะไคร่น้ำ สีเหล่านี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันรังสี UV ซึ่งช่วยลดการซีดจางจากแสงแดดได้ดี
สีภายใน: สภาพแวดล้อมภายในบ้านไม่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ความชื้น หรือแสงแดดเหมือนกับภายนอก ดังนั้นสีภายในจึงเน้นไปที่การให้สีที่สวยงามและสามารถทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงการทนต่อการเสียดสีจากเฟอร์นิเจอร์หรือการกระแทกจากของใช้ภายในบ้าน
สีภายนอก: สีภายนอกต้องเผชิญกับปัจจัยภายนอกที่รุนแรงกว่ามาก เช่น แสงแดดจัด ฝนตกหนัก ความร้อน ความชื้นสูง รวมถึงมลภาวะ ฝุ่นละออง และตะไคร่น้ำ ดังนั้นจึงต้องเลือกใช้สีที่มีความทนทานสูงเพื่อป้องกันการเสียหายจากสิ่งเหล่านี้ สีภายนอกมักต้องการการบำรุงรักษาและการตรวจสอบบ่อยครั้งกว่า เนื่องจากสภาพอากาศสามารถทำให้สีซีดจางหรือหลุดลอกได้เร็วกว่า
สีภายใน: การเตรียมพื้นผิวสำหรับทาสีภายในมักไม่ซับซ้อนมากนัก เพียงแค่ทำความสะอาดผนังให้ปราศจากฝุ่นหรือคราบสกปรก และซ่อมแซมรอยแตกหรือรอยบุบเล็กน้อย ก่อนทาสี ควรทารองพื้นเพื่อให้สีติดทนนานและเรียบเนียน
สีภายนอก: การเตรียมพื้นผิวสำหรับทาสีภายนอกต้องพิถีพิถันกว่า เนื่องจากต้องรับมือกับคราบสกปรก เชื้อรา ตะไคร่น้ำ หรือความชื้น การขัดล้างหรือการขจัดคราบเหล่านี้ออกจากพื้นผิวก่อนทาสีเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบสภาพของพื้นผิว เช่น รอยแตกร้าว หรือปัญหาความชื้น ที่อาจทำให้สีหลุดร่อนหลังทา
สีภายใน: สีภายในบ้านจะบำรุงรักษาง่ายกว่า เพราะไม่ต้องเผชิญกับปัจจัยภายนอกที่รุนแรง การทำความสะอาดเป็นระยะ ๆ โดยใช้ผ้าเช็ดหรือฟองน้ำสำหรับเช็ดคราบสกปรกก็เพียงพอ
สีภายนอก: สีภายนอกต้องการการบำรุงรักษาบ่อยกว่า โดยเฉพาะการทำความสะอาดเพื่อลดคราบฝุ่นละอองและมลภาวะ นอกจากนี้ อาจต้องตรวจสอบสีอย่างสม่ำเสมอว่ามีการหลุดลอกหรือซีดจางในบริเวณที่โดนแสงแดดจัดหรือความชื้นสูงหรือไม่ และอาจจำเป็นต้องทาซ้ำบางบริเวณเป็นระยะ
สีภายใน: การทาสีภายในมักเน้นที่ความสวยงามและเนื้อสีที่เรียบเนียน ช่างทาสีจะให้ความสำคัญกับการทาสีให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกมุมและให้ผิวสัมผัสที่สวยงาม เพราะเป็นพื้นที่ที่เจ้าของบ้านจะเห็นและใช้งานบ่อย
สีภายนอก: เทคนิคการทาสีภายนอกต้องเน้นไปที่ความทนทานและการยึดติดกับพื้นผิว ช่างทาสีภายนอกจะใช้วิธีการที่ทนทานมากขึ้น เช่น การทารองพื้นกันน้ำ หรือทาสีหลายชั้น เพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาพอากาศ
การทาสีภายในและภายนอกต่างกันทั้งในเรื่องของประเภทสี ความทนทาน การเตรียมพื้นผิว และเทคนิคการทา สีภายนอกต้องมีความทนทานต่อสภาพอากาศและมลภาวะมากกว่า ในขณะที่สีภายในเน้นความสวยงามและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานภายในบ้าน
บริการช่างรับเหมาทาสี